คำไวพจน์ "บัว"

คำไวพจน์ บัว คือคำที่มีความหมายคล้ายหรือใกล้เคียงกับคำว่า บัว ใช้ในบทประพันธ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กาพย์ โคลง กลอน หรือแม้แต่ร้อยแก้ว เราสามารถใช้คำเหล่านี้ในการเรียกบัวได้ทั้งสิ้น ตามแต่ความประสงค์ของเรา เช่น ให้คำคล้องจองกัน หรือได้คำที่สละสลวยเป็นเสน่ห์ของภาษาไทย โดยที่ยังคงความหมายดั้งเดิมตามบริบทของการใช้คำ

คำไวพจน์ของคำว่า บัว มีหลายคำ แต่ละคำมีความหมายที่สามารถทดแทนกันได้ แต่ก็อาจจะความหมายแบบอื่นที่แตกต่างกันออกไปบ้าง ทั้งนี้การใช้งานต้องดูที่บริบทประกอบด้วยเพื่อให้เป็นการสื่อสารที่ครบถ้วนและถูกต้องตามบริบทที่ต้องการ

คำไวพจน์ คืออะไร

ก่อนที่เราจะไปดูรายการคำศัพท์ ผมขออธิบายสั้น ๆ ว่า คำไวพจน์ คือ กลุ่มคำที่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก แต่เขียนและออกเสียงต่างกัน การเรียนรู้คำไวพจน์มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเขียนงานต่าง ๆ เพราะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้คำได้หลากหลาย ไม่ซ้ำซาก ทำให้งานเขียนมีความสละสลวยและน่าอ่านมากยิ่งขึ้นครับ

รวมคำไวพจน์ของคำว่า บัว

บัว = บัว


สวัสดีครับนักเรียนทุกท่าน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ คำไวพจน์ของคำว่า "บัว" ซึ่งเป็นไม้น้ำชนิดหนึ่งที่มีความงดงามและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในประเทศไทยอย่างมากครับ

การเรียนรู้คำไวพจน์จะช่วยให้เราสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างสละสลวยและหลากหลายมากยิ่งขึ้นครับ

คำไวพจน์ คือ คำที่มีความหมายเหมือนกันหรือคล้ายกัน แต่มีรูปคำที่ต่างกัน การนำคำไวพจน์มาใช้จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการอ่านและเขียน ทำให้งานเขียนดูน่าสนใจและไม่ซ้ำซาก

ตัวอย่างคำไวพจน์ของ "บัว" และความหมาย

  • อุบล: หมายถึง บัวหลวง, บัวสาย หรือดอกบัวโดยทั่วไป
  • ปทุม / ปัทมา: หมายถึง บัวหลวง, บัวที่มีกลีบซ้อนกัน
  • โกมุท: หมายถึง บัวสายสีแดง, บัวหลวงสีขาว
  • สัตตบุษย์: หมายถึง บัวหลวงขาว
  • สัตตบรรณ: หมายถึง บัวหลวงแดง, บัวที่มีกลีบแดง
  • จงกลนี: หมายถึง บัวชนิดหนึ่ง (มักใช้ในงานกวี)
  • กมล: โดยทั่วไปหมายถึง หัวใจ หรือจิตใจ แต่ในบางบริบทก็ใช้หมายถึง ดอกบัว (โดยเฉพาะในงานกวี)

ตัวอย่างการใช้คำไวพจน์ บัว ในการแต่งกลอน

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ผมขอยกตัวอย่างการนำคำไวพจน์ไปใช้ในบทกลอนง่าย ๆ นะครับ

รุ่งอรุณ อุบล บานสะพรั่ง
ปทุม รุ่งเรืองดัง ดวงมาลย์
โกมุท แดงเด่นกลาง วารีธาร
บัวงาม จงกลนี สถิตในใจ

บัว อ่านว่า?

บัว อ่านว่า /บัว/

บัว หมายถึง?

บัว ความหมายตามพจนานุกรมไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง:

  1. น. ชื่อเรียกไม้นํ้าหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ คือ สกุล Nelumbo ในวงศ์ Nelumbonaceae มีเหง้ายาวทอดอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบ อยู่ห่าง ๆ กัน ก้านใบและก้านดอกแข็ง มีหนามสากคาย ชูใบและดอกขึ้นพ้นผิวนํ้า เช่น บัวหลวง (N. nucifera Gaertn.) ดอกสีขาวหรือชมพู กลิ่นหอม พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบุษย์ พันธุ์ดอกสีชมพูเรียก ปัทม์ หรือ สัตตบงกช ดอกใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เมล็ดกินได้, สกุล Nymphaea ในวงศ์ Nymphaeaceae มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบหรือจักอยู่ชิดกันเป็นกระจุก ก้านใบและก้านดอกอ่อนไม่มีหนาม ใบลอยอยู่บนผิวนํ้า ดอกโผล่ขึ้นพ้นผิวนํ้า ผลจมอยู่ในนํ้าเรียก โตนด เช่น บัวสาย (N. lotus L. var. pubescens Hook.f. et Thomson) ขอบใบจัก ดอกสีขาวหรือแดง ก้านดอกเรียก สายบัว กินได้ พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบรรณ บัวเผื่อน (N. nouchali Burm.f.) ขอบใบเรียบ ดอกสีม่วงอ่อน, สกุล Victoria ในวงศ์ Nymphaeaceae เช่น บัวขอบกระด้ง หรือ บัววิกตอเรีย [V. amazonica (Poeppig) Sowerby] มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลมใหญ่ ขอบยกขึ้นคล้ายกระด้ง ลอยอยู่บนผิวนํ้า ใต้ใบ ก้านดอก และด้านนอกของกลีบดอกชั้นนอกมีหนามแหลม ดอกใหญ่ สีขาว หอมมาก; ส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ทําเป็นรูปกลีบบัว ติดอยู่บนหัวเสา เรียกว่า บัวหัวเสา หรือที่ส่วนล่างของฐานเป็นต้น เรียกว่า ฐานบัว, ส่วนประดับที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรม ใช้ตกแต่งตรงส่วนขอบของพื้นผนังด้านล่างและด้านบน เพื่อประสานระหว่างพื้นที่ต่างระดับหรือพื้นที่ในแนวนอนกับแนวตั้ง เช่น เพดานกับผนัง พื้นกับผนัง ลักษณะเป็นแผ่นหรือแถบที่มีความกว้างตามความเหมาะสมของพื้นที่แต่ยาวทอดไปตามมุมหรือขอบ เช่น เชิงผนัง ขอบเพดาน อาจเป็นปูนที่ปั้นแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ เป็นไม้แกะสลักหรือไสเซาะเป็นลวดลาย หรือเป็นไม้แถบขนาดเล็กไม่มีลวดลายที่ช่างทั่วไปมักเรียกว่า ไม้มอบ, ลวดบัว ก็เรียก, เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดอกบัว เช่น โคมบัว.

คำที่มีความหมายคล้ายกับบัว

มีความหมายในพจนานุกรมไทย ดังนี้

  1. บัว หมายถึง น. ชื่อเรียกไม้นํ้าหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ คือ สกุล Nelumbo ในวงศ์ Nelumbonaceae มีเหง้ายาวทอดอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบ อยู่ห่าง ๆ กัน ก้านใบและก้านดอกแข็ง มีหนามสากคาย ชูใบและดอกขึ้นพ้นผิวนํ้า เช่น บัวหลวง (N. nucifera Gaertn.) ดอกสีขาวหรือชมพู กลิ่นหอม พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบุษย์ พันธุ์ดอกสีชมพูเรียก ปัทม์ หรือ สัตตบงกช ดอกใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เมล็ดกินได้, สกุล Nymphaea ในวงศ์ Nymphaeaceae มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลม ขอบเรียบหรือจักอยู่ชิดกันเป็นกระจุก ก้านใบและก้านดอกอ่อนไม่มีหนาม ใบลอยอยู่บนผิวนํ้า ดอกโผล่ขึ้นพ้นผิวนํ้า ผลจมอยู่ในนํ้าเรียก โตนด เช่น บัวสาย (N. lotus L. var. pubescens Hook.f. et Thomson) ขอบใบจัก ดอกสีขาวหรือแดง ก้านดอกเรียก สายบัว กินได้ พันธุ์ดอกสีขาวเรียก สัตตบรรณ บัวเผื่อน (N. nouchali Burm.f.) ขอบใบเรียบ ดอกสีม่วงอ่อน, สกุล Victoria ในวงศ์ Nymphaeaceae เช่น บัวขอบกระด้ง หรือ บัววิกตอเรีย [V. amazonica (Poeppig) Sowerby] มีเหง้าสั้นอยู่ในตม ใบเป็นแผ่นกลมใหญ่ ขอบยกขึ้นคล้ายกระด้ง ลอยอยู่บนผิวนํ้า ใต้ใบ ก้านดอก และด้านนอกของกลีบดอกชั้นนอกมีหนามแหลม ดอกใหญ่ สีขาว หอมมาก; ส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ทําเป็นรูปกลีบบัว ติดอยู่บนหัวเสา เรียกว่า บัวหัวเสา หรือที่ส่วนล่างของฐานเป็นต้น เรียกว่า ฐานบัว, ส่วนประดับที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรม ใช้ตกแต่งตรงส่วนขอบของพื้นผนังด้านล่างและด้านบน เพื่อประสานระหว่างพื้นที่ต่างระดับหรือพื้นที่ในแนวนอนกับแนวตั้ง เช่น เพดานกับผนัง พื้นกับผนัง ลักษณะเป็นแผ่นหรือแถบที่มีความกว้างตามความเหมาะสมของพื้นที่แต่ยาวทอดไปตามมุมหรือขอบ เช่น เชิงผนัง ขอบเพดาน อาจเป็นปูนที่ปั้นแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ เป็นไม้แกะสลักหรือไสเซาะเป็นลวดลาย หรือเป็นไม้แถบขนาดเล็กไม่มีลวดลายที่ช่างทั่วไปมักเรียกว่า ไม้มอบ, ลวดบัว ก็เรียก, เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดอกบัว เช่น โคมบัว.

 ภาพประกอบบัว

  • คำไวพจน์ บัว รวมคำศัพท์เกี่ยวกับบัวในภาษาไทย

 คำไวพจน์ที่คล้ายกัน